Western Digital ยกระดับประสิทธิภาพ SSD ไคลเอนต์ด้วยเทคโนโลยี QLC รุ่นใหม่ เพื่อตอบโจทย์ผู้ผลิต OEM โดยเฉพาะ

โลกดิจิทัลเดินหน้าขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และความต้องการที่มีต่อพื้นที่จัดเก็บข้อมูลก็ยังคงมีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากพื้นที่จัดเก็บข้อมูลเป็นดั่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่เทคโนโลยีและนวัตกรรมอื่นๆ จำนวนมากต้องพึ่งพา Western Digital® PC SN5000S NVMeTM SSD รุ่นใหม่มอบประสิทธิภาพการทำงานของเทคโนโลยี QLC (quad-level cell) ยุคใหม่ ที่ช่วยให้มีความหนาแน่นในการจัดเก็บข้อมูลสูงขึ้นและประสิทธิภาพการทำงานดียิ่งขึ้น ไดรฟ์รุ่นนี้ออกแบบมาเพื่อผู้ผลิต OEM กลุ่มอุปกรณ์พีซีโดยเฉพาะ เป็นไดรฟ์อินเทอร์เฟซ PCIe® Gen4x4 ที่มีความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลที่รวดเร็ว เหมาะสำหรับการจัดการปริมาณงานที่มีความต้องการสูงได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อสามารถตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในเรื่องประสิทธิภาพ ความน่าเชื่อถือ และความจุที่ต้องดีขึ้นและมากขึ้น ขณะที่ราคายังคงเอื้อมถึงได้

จากการคาดการณ์ของ IDC* ระบุว่า ภายในปี 2569 การใช้เทคโนโลยี QLC NAND ใน SSD ไคลเอนต์จะมีจำนวนมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ ความต้องการโซลูชันการจัดเก็บข้อมูลที่เชื่อถือได้และมีประสิทธิภาพจากแบรนด์ระดับพรีเมียมที่น่าเชื่อถือกลายเป็นเรื่องจำเป็น และ QLC NAND ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในความก้าวหน้าล่าสุดที่ช่วยให้ SSD มีพื้นที่จัดเก็บข้อมูลที่มากขึ้นและมีราคาที่ไม่แพงออกมาสู่ตลาด Western Digital PC SN5000S NVMe SSD รุ่นใหม่นี้ใช้ประโยชน์จากแนวทางของ Western Digital ที่ควบคุมและจัดการขั้นตอนต่างๆ ตั้งแต่ การออกแบบ การผลิต และการจัดจำหน่ายได้ภายในบริษัท เพื่อก้าวข้ามขอบเขตของสิ่งที่เคยทำได้ก่อนหน้านี้ Western Digital PC SN5000S NVMe SSD เป็นผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นในตลาดเทคโนโลยี QLC โดยสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับ SSD ที่ใช้ QLC ในแง่ของประสิทธิภาพความเร็วและการตอบสนองที่ยอดเยี่ยม ความทนทาน และความน่าเชื่อถือในการทำงานอย่างต่อเนื่องโดยไม่มีข้อผิดพลาด

Western Digital PC SN5000S NVMe SSD เป็นไดรฟ์ SSD QLC PCIe Gen4 แบบ DRAM-less ที่คุ้มค่า ซึ่งออกแบบมาสำหรับระบบโน้ตบุ๊กและเดสก์ท็อป โดยมีคุณสมบัติที่ตอบโจทย์ผู้ผลิต OEM ของพีซี ดังนี้:

ความเร็วในการอ่านเพิ่มขึ้น 17 เปอร์เซ็นต์ และความเร็วเขียนเพิ่มขึ้น 16 เปอร์เซ็นต์**

มีการปรับปรุงประสิทธิภาพความเร็วในการอ่านแบบสุ่มให้ดีขึ้น 15 เปอร์เซ็นต์ และความเร็วในการเขียนแบบสุ่มดีขึ้น 13 เปอร์เซ็นต์ มากกว่าไดรฟ์รุ่นก่อน**

สามารถประมวลผลการทำงานของอินพุตและเอาต์พุต (I/O) ได้เร็วกว่า SSD รุ่นก่อนหน้า และลดเวลาแฝงในการเข้าถึงและดึงข้อมูล (เวลาแฝงในการอ่าน) หรือเขียนข้อมูล (เวลาแฝงในการเขียน) เมื่อเทียบกับไดรฟ์รุ่นก่อนหน้า ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและผลิตผลระหว่างการประมวลผลที่เข้มข้น เช่น การโหลด การคัดลอก และการบูต ให้เวลาตอบสนองเร็วขึ้นและราบรื่นมากขึ้น

ด้วยการใช้คอนโทรลเลอร์และเฟิร์มแวร์ของตัวเอง ทำให้ Western Digital สามารถนำเสนอโซลูชัน SSD ที่ได้รับการพัฒนาปรับปรุงอย่างเต็มรูปแบบออกสู่ตลาดได้เร็วขึ้น และการควบคุมคุณภาพที่เข้มข้นทำให้มั่นใจได้ถึงประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือของผลิตภัณฑ์

SSD รุ่นนี้ใช้พลังงานระหว่างการใช้งานน้อยลงถึง 20 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน** การลดการใช้พลังงานนี้ช่วยยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ในอุปกรณ์แบบพกพาให้นานขึ้น

มีพาร์ติชั่นสำหรับบู๊ตโดยเฉพาะสามารถช่วยปรับปรุงเสถียรภาพและความปลอดภัยของระบบ ด้วยทางเลือกการใช้ระบบจัดการการรักษาความปลอดภัย TCG OPAL 2.02 และ ATA ด้วยการเข้ารหัสและการตรวจสอบความสมบูรณ์ของข้อมูล อย่าง RSA-3K (การเข้ารหัส RSA ที่มีความยาวคีย์ 3000 บิต) และ SHA-384 (การเข้ารหัสที่ใช้สำหรับการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล) เพิ่มการปกป้องอีกขั้น ให้ผู้ใช้งานสามารถจัดการดูแล การเข้าถึง ความสมบูรณ์ และความถูกต้องของข้อมูลของตนได้

อัจ ลอฟท์เกม

อัจ ลอฟท์เกม ผู้ก่อตั้งเพจและเว็บไซต์ "ลอฟท์เกม - LOFTSGAME" บล็อกเกอร์ผู้สนใจและชื่นชอบเครื่องเล่นเกมคอนโซลเป็นชีวิตจิตใจ นอกจากนี้ยังชื่นชอบเทคโนโลยีต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ไอที แกตเจ็ต รวมไปถึงกีฬาอีสปอร์ต facebook twitter

แสดงความคิดเห็น

ใหม่กว่า เก่ากว่า