Elgato แบรนด์ของ CORSAIR (NASDAQ: CRSR) วันนี้ได้เปิดตัวการ์ดแคปเจอร์ใหม่ล่าสุดสองรุ่นอันได้แก่ 4K X และ 4K Pro ที่มาพร้อมกับชิปเซ็ตล่าสุดและสเปคอันโดดเด่น การ์ดแคปเจอร์ทั้งสองรุ่นนี้จะทำให้เหล่าครีเอเตอร์สามารถมอบประสบการณ์การรับชมอันยอดเยี่ยมที่สุดให้แก่ผู้ชมของพวกเขาได้ทุกแพลตฟอร์ม โดยไม่มีข้อแม้ ทั้งบน PS5, Xbox series X|S เกมมิ่งพีซีระดับไฮเอนด์ หรือจะเป็นอุปกรณ์เล่นเกมแบบพกพาอย่าง Nintendo Switch โดยเริ่มจาก 4K X ที่เป็นการ์ดแบบ USB จะมาพร้อมความสามารถในการจับภาพได้สูงสุด 4K144 แบบ passthrough ส่วน 4K Pro ที่เป็นการ์ดแบบ PCIe จะมาพร้อมความสามารถในการจับภาพแบบ 8K60 HDR10 และ 4K60 HDR10 สร้างบรรทัดฐานใหม่ให้วงการสตรีมมิ่ง Elgato วันนี้ พร้อมมอบความสามารถในการสร้างสรรค์คอนเทนต์สุดล้ำ ให้กับเหล่าเกมเมอร์
“เมื่อสิบปีที่ผ่านมา เราได้ปฏิวัติการสตรีมมิ่ง และแคปเจอร์ภาพจากการเล่นเกมคุณภาพสูง ให้เหล่าครีเอเตอร์ทั่วโลกมาแล้ว” คุณ Julian Fest รองประธานกรรมการผู้จัดการใหญ่ และผู้จัดการทั่วไปของ Elgato ได้กล่าว “และในวันนี้ เรามีความตื่นเต้นเป็นอย่างมาก ที่จะทลายข้อจำกัดเดิมๆให้กับเหล่าครีเอเตอร์อีกครั้ง ด้วยการเปิดตัว 4K X และ 4K Pro ที่รวมเอาการเชื่อมต่อ HDMI 2.1 ความสามารถในการรองรับ HDR10 และ VRR Passthrough ที่ยืดหยุ่นสูงสุดถึง 80K60 เป็นครั้งแรกในวงการการ์ดแคปเจอร์ ผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะทำให้ผู้ใช้สามารถสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพสูงยิ่งกว่าเดิมที่เคยเป็นมา”
4K X นั้นเป็นผลิตภัณฑ์ระดับ game-changer ที่สร้างมาเพื่อครีเอเตอร์ที่ต้องการความเรียบง่ายในการทำงาน แต่ไม่ยอมสูญเสียคุณภาพของภาพและรายละเอียดไป ด้วยขนาดไม่ใหญ่ไปกว่าสมาร์ทโฟน อุปกรณ์แคปเจอร์เกมนี้ไม่ได้มีเพียงแค่พอร์ต HDMI 2.1 ฝั่งอินพุตและเอาท์พุตเท่านั้น แต่ยังมี USB 3.2 Gen 2 รองรับ VRR (Variable refresh rate) และรองรับ HDR10 ด้วยฟีเจอร์เหล่านี้จะทำให้คุณสามารถเล่นเกมไปพร้อมกับแคปเจอร์การเล่นเกมไปได้ด้วยเฟรมเรต และความละเอียดสูงกว่าที่เคย เช่น 4K ที่ 120Fps โดยไม่ต้องกังวลว่าภาพจะแตกพร่า (screen tearing) ส่วนผู้ที่ใช้จอ 4K144 หรือสูงกว่าก็จะยังสามารถใช้ฟังก์ชั่น passthrough และแคปเจอร์ภาพที่ความละเอียด 4K ด้วยเฟรมเรต 144Fps ได้ไปพร้อมกัน 4K X นั้นรองรับการทำงานทั้งบน Windows, Mac และเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์วงการการ์ดแคปเจอร์ ที่มีการรองรับการเชื่อมต่อกับ iPad ผ่าน USB-C เปิดทุกความเป็นไปได้ในทุกเซ็ตอัพที่มีขนาดกะทัดรัด สำหรับเกมเมอร์สายนอนเอกเขนกบนโซฟา
สำหรับเหล่านักเล่นพีซีที่มองหาความสามารถระดับตัวท็อป ต้องเป็น 4K Pro ที่เป็นตัวเลือกสเปคสูงสุด ที่มี HDMI 2.1 ขาเข้าและขาออก และรองรับ True HDR10 ที่ความละเอียด 8K60 HDR10 Passthrough และรองรับ 4K60 HDR10 พร้อม VRR การ์ดแคปเจอร์นี้จะเปลี่ยนให้เซ็ตอัพพีซีเครื่องเดียวหรือคู่ของคุณนั้นเป็นม้างานในการไลฟ์สตรีมการเล่นเกมของคุณได้ และสำหรับเกมเมอร์ที่ต้องการเฟรมเรตสูงกว่า 4K Pro รองรับการทำ Low latency passthrough ที่เฟรมเรต 240Fps ในความละเอียด 4K และให้คุณสามารถแคปเจอร์ภาพระดับ 1080p240 ไปพร้อมกันได้ นอกจากนี้ ยังรองรับการแคปเจอร์หลายแอพพลิเคชั่นพร้อมกัน ทำให้คุณสามารถบันทึกวีดีโอการเล่นเกมพร้อมกับสตรีมขึ้นไปยัง OBS, Discord หรือแม้แต่ Zoom ได้พร้อมกัน โดย 4K Pro นี้ สงวนการใช้งานไว้เฉพาะกับแพลทฟอร์ม Windows ผ่านอินเตอร์เฟซ PCIe 2.0 x4 เท่านั้น
4K X และ 4K Pro นั้นสามารถใช้งานร่วมกับแอพฯออกอากาศยอดนิยมได้หลากหลาย ตั้งแต่ OBS Studio, Twitch Studio, Streamlabs Desktop, vMix และอื่น ๆ โดย Elgato ขอนำเสนอแอพ Companion ให้ดาวน์โหลดได้ฟรี เพื่อให้เหล่าครีเอเตอร์ได้ใช้งานเครื่องมือในการบันทึกวีดีโอและส่งออกไฟล์ AAF สำหรับตัดต่อในซอฟต์แวร์ระดับมืออาชีพอย่าง Adobe Premiere และ Vegas pro ได้ นอกจากนี้ยังมีแถมสาย 8K HDMI มาให้ในการ์ดทั้งสองรุ่นนี้ ในขณะที่ 4K X จะมาพร้อมกับสาย USB 3.2 C to C ที่ให้คุณเชื่อมต่อใช้งานได้ทันที
จากวันนี้เป็นต้นไป เกมเมอร์ยุคใหม่ก็จะได้สัมผัสกับมาตรฐานการสตรีมเกมใหม่บน Twitch, YouTube และแพลตฟอร์มวีดีโออื่น ๆ อีกมากมาย
การจัดจำหน่าย
Elgato 4K X และ 4K Pro นั้นมีวางจำหน่ายแล้วผ่านเครือข่ายผู้จำหน่าย Elgato และ CORSAIR ทั่วโลก
Elgato 4K X และ 4K pro มาพร้อมการรับประกัน 2 ปี พร้อมบริการสนับสนุนด้านเทคนิคผ่านเครือข่ายการให้บริการทั่วโลก สำหรับราคาล่าสุดของ Egato 4K X และ 4K Pro กรุณาตรวจสอบจากเว็บไซต์ Elgato หรือติดต่อร้านค้าตัวแทนจำหน่าย CORSAIR/Elgato ใกล้บ้านท่าน
เว็บเพจ
Elgato 4K X: https://e.lga.to/4K_X_PR
Elgato 4K Pro: https://e.lga.to/4K_Pro_PR
