รีวิว : Review LEOBORG Keyboard แบบมัดรวม แบรนด์น้องใหม่ จากแดนมังกร!!

สวัสดีครับวันนี้แนะนำสินค้าจากทาง LEOBORG เป็นแบรนด์คีย์บอร์ด
ที่กำลังมาแรง และให้การตอบรับที่ดีมากๆ จากเกมเมอร์ชาวไทย ขอพาชม รีวิว
2 รุ่น 2 สไตล์กับ รุ่น LEOBORG A75 Black และ LEOBORG High75 Blueberry Party
พร้อมแล้วไปลุยกันเลย


Bundle LEOBORG A75


เมื่อแกะตัวกล่องจะพบกับ ตัวคีย์บอร์ด คู่มือการใช้งาน , สาย USB Type A – C แบบธรรมดา
ที่ดึงคีย์แคปและที่ดึงสวิทช์ในตัว และปิดท้ายกับ Switch อะไหล่ 2 ชิ้น


Bundle LEOBORG High75


เมื่อแกะตัวกล่องจะพบกับ ตัวคีย์บอร์ด คู่มือการใช้งาน, สาย USB Type A – C สายถักอย่างดี, ที่ดึงคีย์แคปและที่ดึงสวิทช์ในตัว, เพลต LOGO, และปิดท้ายกับ Switch อะไหล่ 2 ชิ้น




Design and Specification LEOBORG A75


สำหรับตัวคีย์บอร์ดในรุ่น A75 ถือว่าออกแบบมาในรูปแบบที่แบ่งครึ่งการพิมพ์เป็น 2 ฝั่ง
ใครที่ชอบพิมพ์เยอะๆ พิมพ์บ่อยๆ ชื่นชอบ ไม่มากก็น้อย มาพร้อมกับ Body แบบ Plastic ในส่วน Keycaps มาในรูปแบบ สี 3 สี โดยใช้สีดำเป็นสีหลัก ตัดกับสีขาวและสีม่วงให้ความ Classic เรียบหรูใช้งานที่ไหนก็ดูดี สามารถปรับสูง-ต่ำได้ ด้วยการสลับ ลูกยางใต้คีย์บอร์ด
แถมมี Analog อยู่ตรงกลางซึ่งทดแทนการใช้ลูกศร Allow Key นั่นเอง ซึ่งสามารถปรับเพิ่มเติมด้วยการ Download Driver มาปรับได้จากทางผู้ผลิต
มาพร้อมกับ โหมดไฟ RGB ที่สามารถ ปรับได้จากลูกบิด Knobs ด้านขวา โหมดไฟที่เยอะถึง 13 รูปแบบ จัดว่าคุ้มค่ามากๆ 
สวิทช์ที่จับคู่เลือกใช้ LEOBOG Barbie Linear ที่ใช้แรงกดนั้นไม่ยวบ และไม่แข็งเกินไป
เวลาพิมพ์เป็นระยะเวลานานไม่มีอาการเกร็งที่นิ้ว
มาพร้อมการเชื่อมต่อไร้สายถึง 3 โหมด ทั้ง USB , Wireless 2.4G , Bluetooth 
โดยในรูปแบบ Bluetooth รองรับการเชื่อมต่อได้ถึง 3 อุปกรณ์เลย ตอบโจทย์การใช้งานยุคใหม่
ที่ไม่จำเป็นต้องใช้แต่ PC เสมอไป

Design and Specification LEOBORG High75


ในส่วนของคีย์บอร์ดในรุ่นนี้ จะเป็นการออกแบบธีมสีฟ้าตัดสีขาว และใช้วัสดุอลูมิเนียมให้ความหนักแน่น และสัมผัสที่พรีเมี่ยม ในรูปแบบ 75% Keyboard ที่เป็น Layout ที่เล็กกระทัดรัด
ประหยัดพื้นที่ โดยใช้ Layout ของตัว Keycaps แบบ SOA ที่สี Keycaps คุมธีมสีฟ้าตัดกับสีขาว
มาพร้อม Nimbus Switch (Linear) ที่เป็น สวิทช์แบบ Linear ที่ใช้แรงกดนั้นไม่ยวบ และไม่แข็งเกินไป เวลาพิมพ์เป็นระยะเวลานานไม่มีอาการเกร็งที่นิ้ว ถือว่าสัมผัสดีมากๆครับ
ส่วนจุด Space Bar เลือกใช้เป็น LEOBOG Reaper (Linear) เพื่อให้การเคาะ มีแรงกระเด้งที่ดีขึ้น แถมกับการที่รองโฟมที่แผง PCB อีก ทำให้เสียงการพิมพ์ ลื่นหูมากๆครับ อยากให้ไปลองกันจริงๆ
มาพร้อมกับ โหมดไฟ RGB ที่สามารถ ปรับได้จากลูกบิด Knobs ด้านขวา โหมดไฟที่เยอะถึง 13 รูปแบบ จัดว่าคุ้มค่ามากๆ ด้านการเชื่อมต่อจะสามารถเชื่อมต่อได้เพียง USB Type C ที่แถมมาให้จากในกล่องเท่านั้น
และไม่สามารถปรับสูง-ต่ำได้ จึงเป็นข้อสังเกตุสำหรับคีย์บอร์ดรุ่นนี้ 



บทส่งท้าย


สำหรับคีย์บอร์ดทั้งสองรุ่นนี้ ใครที่สนใจ ทาง LEOBORG ได้มีช่องทางจัดจำหน่ายแบบ Offical 
ผ่านเว็บไซต์ดังลิงค์นี้ครับ จัดส่งมาถึงไทยห่อมาอย่างดีสวยๆเลย


LEOBORG High75 

https://leobogtech.com/collections/keyboards/products/epomaker-leobog-hi75

LEOBORG A75 

https://leobogtech.com/collections/keyboards/products/leobog-a75

ด้านการใช้งานทั้งสองรุ่นถือว่า พรีเมี่ยมสมการรอคอยมากๆ รุ่นที่อยากฝากเป็นข้อสังเกตุ
จะเป็นรุ่น A75 ที่ตัวคีย์บอร์ดแบ่งครึ่ง 2 ฝั่ง เวลาการใช้พิมพ์ภาษาไทย จะค่อนข้างใช้งานยาก
เพราะเหมาะกับคนที่พิมพ์สัมผัสเก่งๆ ถ้าใช้นิ้วจิ้มที่ละคีย์ๆ จะไม่เหมาะเท่าไหร่
ส่วนรุ่น High75 ก็จะขาดแค่การรองรับ Tri-Mode ที่ไม่สามารถเชื่อมต่อไร้สายได้
ถึงเป็นจุดสังเกตุในครั้งนี้ครับ
ฝากรีวิวจากทางพวกเรา LOFTSGAME ด้วยนะครับ ในทุกๆช่องทางของพวกเราด้วยนะครับสวัสดีครับ


Facebook คลิกเลยครับ

TikTok คลิกเลยครับ

และหน้าเว็บไซต์ คลิกเลยครับ

อัจ ลอฟท์เกม

อัจ ลอฟท์เกม ผู้ก่อตั้งเพจและเว็บไซต์ "ลอฟท์เกม - LOFTSGAME" บล็อกเกอร์ผู้สนใจและชื่นชอบเครื่องเล่นเกมคอนโซลเป็นชีวิตจิตใจ นอกจากนี้ยังชื่นชอบเทคโนโลยีต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ไอที แกตเจ็ต รวมไปถึงกีฬาอีสปอร์ต facebook twitter

แสดงความคิดเห็น

ใหม่กว่า เก่ากว่า
LOFTSGAME - ลอฟท์เกม - รีวิว บทความ ข่าวสาร เกม ไอที และอีสปอร์ต by อัจ ลอฟท์เกม