รีวิว : Review MSI Stealth16 Studio มาดใหม่สุดพรีเมี่ยมโดนใจชาว Creator

กลับมาพบกับ Notebook Creator กันบ้าง โดยรีวิวนี้พี่แบงค์ขอแนะนำสเป็คเครื่องที่สูงขึ้นไปอีกขั้นของแบรนด์ กับ MSI Stealth 16 Studio A13VG-044TH ที่จุดเด่นคือการ Design ใหม่หมดด้วยเฉดสี Star Blue สุดหรู หน้าจอได้ให้มาความละเอีนดถึง 2K 240Hz พร้อมอัตราส่วนภาพใหม่ที่เต็มตากับ Golden Ratio 16:10 ที่ทำให้การใช้งานเต็มตามากกว่าที่เคย พร้อมปิดท้ายด้วยวัสดุสุดพรีเมี่ยมกับ Magnesium Aluminum alloys รายละเอียดความแรงและการทดสอบ ติดต่อต่อได้ในรีวิวนี้ครับ Let’s Go!

Bundle

เมื่อแกะตัวเครื่องจะพบกับกระเป๋า Backpacker ตรงรุ่น , ตัวเครื่อง , Adapter Charge เครื่องขนาด 240W คู่มือการใช้งาน , ปิดท้ายที่เมาส์จากทาง MSI ครับผม


Design and Specification

ในส่วนที่เจ้า MSI Stelth16 Studio แตกต่างจากรุ่นก่อนหน้านี้ ผมขอเริ่มจากสเป็คเครื่องก่อนนะครับ 

-การ์ดจอใหม่ล่าสุด RTX4070 Series ที่เป็นแบบ RTX Studio ประสิทธิ์ภาพในด้านการทำงานดีมากขึ้น

-พร้อม CPU ใหม่ล่าสุดกับ intel core i7Gen13 รหัส 13700H ที่จะมาช่วยให้การทำงานราบรื่น แทบใกล้เครื่อง Desktop PC เลย

-พร้อมเทคโนโลยีระบายความร้อน Cooler Boost พร้อมฮีทซิงค์แบบบ Shared-Pipe Technology ที่เอาอยู่กับขุมพลังในเครื่องนี้อย่างแน่นอนครับ

-พร้อม RAM ให้มาถึง DDR5 ถึง 32GB BUS5200 MHz แบ่งแรมแผงละ 16 GB จำนวน 2 แผง

-และการเก็บข้อมูลด้วย SSD m.2 PCIe Gen4 จำนวนถึง 2TB จำนวน 1 ตัว (สามารถอัพเกรดได้อีก 1 ช่อง)

(ตัวเครื่องค่อนข้างแกะยากเลยขออนุญาตไม่แกะให้ชมครับ)

-ด้านหน้าจอก็ให้อัตราส่วนภาพแบบใหม่ที่เป็น Golden Ratio 16:10 ซึ่งทำการใช้งานเต็มตามากยิ่งขึ้น โดยเกมยุคใหม่ 2022-2023 เริ่มมีให้ปรับ Option แล้ว ซึ่งส่วนตัวชอบมากๆครับ เห็นมุมมองเกมที่แปลกใหม่ (อาจจะต้องปรับสายตาสักพักเพราะตัวภาพเขาขอบบนละขอบล่างจะมีขนาดที่ใหญ่ขึ้น)

-มาพร้อม Webcam ความคมชัด Full HD ที่ให้เราสามารถ Video Call สนทนาประชุมงานหรือใช้ในการเรียน Online ได้อย่างไร้กังวล มีสวิตช์เลื่อน เปิด-ปิด ใช้งานกล้องเพื่อความเป็นส่วนตัว และสามารถกางหน้าจอแบนราบได้ถึง 180 องศา

-ต่อด้วย Keyboard ที่ได้ความร่วมมือจาก SteelSeries ที่การพิมพ์ฟิลล์ลิ่งความรู้สึก มันพรีเมี่ยมแตกต่างจาก Notebook รุ่นอื่นๆ ที่ไม่ได้เน้นจุดนี้ถือว่าเป็นการใส่ใจที่ดีมากๆครับ ปุ่มครบครันตัวเลข Numpad ก็มี ไม่ตัดย่อปุ่มแล้วให้กด FN ทำการพิมพ์งานนั้นใช้งานได้คล่องมากๆครับ ส่วนการ Config แสงไฟของคีย์บอร์ด ได้ผ่านโปรแกรม SteelSeries Engine เป็นโปรแกรมเสริม เพราะว่า Keyboard เขานั้นเป็นแบบ Per-Key RGB นั่นเอง สามารถปรับได้ค่อยข้างละเอียดครับ โดยที่ตัวคีย์บอร์ดในเครื่องสามารถเสียบ Gaming Gear ของทาง SteelSeries เพื่อให้ Sync ระบบแสงไฟ ให้ดูสวยงามสะดุดตามากขึ้นครับ

ด้าน Port การเชื่อมต่อ ให้มาแบบคอนเซปต์ที่ล้ำยุคเน้นการใช้งานจริงๆ ทั้ง 2 ฝั่งตัวเครื่องอาทิ

-ฝั่งซ้ายเครื่องจะเป็น Port LAN RJ45 2.5GbE ที่ล้ำยุคมากๆ ใครทำ Network เทพๆ แรงๆ รอไว้ได้ใช้งานแน่นอนกับช่อง LAN 2.5GbE

-ต่อไปกับ Port HDMI Version2.1 รองรับ 8K 60FPS ต่อออกจอทีวี จอมอนิเตอร์ ได้ภาพสวยๆ แน่นอนครับ

-Port ThunderBolt4 ช่องเอกประสงค์ที่สามารถใช้งานได้หลากหลาย รุ่นนี้ได้ใส่มาให้ใช้งานกันด้วย

-ช่องอ่าน MicroSD Card Reader ปิดท้ายด้วยช่อง USB Type-C 3.2 สามารถต่อ Type-C to Display Port หรือจะ USB Type-C to HDMI ก็ได้เช่นเดียวกัน และสามารถชาร์จ Smartphone ด้วยความเร็ว PD Charge

ซ้ายดีเทลก็แน่นๆแบบนี้ ข้างขวาก็แน่นเช่นเดียวกันไปรับชมกันเลยครับ

-ช่องชาร์จเครื่องเป็น Port เฉพาะของเครื่องรุ่นนี้สามารถ พลิกเสียบชาร์จได้ไม่มีปัญหา

-USB Type A 3.2 Gen 2 ยังมีให้สำหรับเสียบ Mouse และอุปกรณ์อื่นๆ อยู่ครับ

-USB Type C 3.2 ถ่ายโอนข้อมูลทั่วไป

-ปิดท้ายกับช่องหูฟังพร้อมไมค์ 3.5mm 

Benchmark Intro

การทดสอบในครั้งนี้ขอทดสอบ เหมือนทุกครั้งคือ Cinebench R23 , 3D Mark , Crystal Diskmark ด้วยสเปคที่เรากล่าวมาในข้างต้นพร้อมแล้วไปครับชมกันเลยครับ

Cinebench R23

ทดสอบในด้าน CPU ด้วยโปรแกรม Cinebench R23 ถือว่าเป็นเครื่องที่พกพาไปแล้วไม่ผิดหวัง คะแนน CPU จัดว่าอยู่ในเกณฑ์ที่อยู่ในระดับแถวบนๆเลย ส่วนความร้อนหลังจบการทดสอบก็ระบายออกได้อย่างฉับไวสมกับที่ใช้พร้อมเทคโนโลยีระบายความร้อน Cooler Boost พร้อมฮีทซิงค์แบบบ Shared-Pipe Technology ที่เอาอยู่กับขุมพลังในเครื่องนี้อย่างแน่นอนครับ


3D Mark

ทดสอบกันต่อในการใช้กราฟฟิคกันบ้างนะครับโดยที่กราฟฟิคนั้นทำคะแนนชี้วัดได้ดีทั้ง Time Spy และ Fire Strike ปั่นคะแนนกันแบบ Desktop PC บางคนมีร้องไห้กันบ้างหละ มีเครื่องนี้พกไปไม่ผิดหวังครับ


Crystal Diskmark 

สำหรับด้าน SSD ที่ให้มานั้นจัดว่าความจุ 2TB ซึ่งเยอะมากๆ และมีความเร็วที่ฉับไวด้วย จัดมาแบบหนักๆเต็มจริงๆครับ สำหรับ SSD ที่ให้มาในเครื่องรุ่นนี้ และทางเราก็ขอทดสอบ Port Thunderbolt กับ External SSD ด้วยพบว่าสามารถโอนถ่ายข้อมูลได้รวดเร็วเต็มสปีดของ External SSD เลยครับ


Gaming Test

ทดสอบประสิทธิ์ภาพเครื่องไปแล้วก็มาทดสอบเกมกันบ้างนะครับพร้อมแล้วลุยกันเลย Let’s go!!

GTA V

เปิดเกมแรกด้วยเกมมหาชนกับ GTA V กับ 2K ปรับสุดทุกดอก บอกกันแบบภาคภูมิใจได้เฟรมเรทกันไปถึง 120-170 FPS เลยและด้วยการที่ได้ Scale ภาพ 16:10 ทำให้เห็นมุมมองภาพใหม่ๆ ที่เราไม่เคยพบเจอ ขอแนะนำเลย มันทำให้การเล่นเกมนี้ ได้รับประสบการณ์ใหม่จริงๆ ครับ (แต่ใครจะสตีมไปด้วยก็ ปรับลดสเป็คลงมาเพื่อให้เกิดความลื่นไหลในการสตรีมมิ่งได้นะครับ)


PUBG

ต่อด้วยเกมยิงที่มหาชนไม่แพ้กันกับ PUBG Steam 2K ใส่กราฟฟิคเต็มๆสุดหมด ไม่ออมมือ พร้อม render scale 120% ก็ได้เฟรมเรท 69-110 FPS แต่ใครชอบปั่นเฟรมเรท เพื่อช่วงชิงความไวในการมองหาศัตรูก็สามารถปรับกราฟฟิคลงมาได้ตามชอบเลยนะครับ 


The Last Of Us Part 1

มาทดสอบพลัง RTX กับเกมสุดอมตะที่สานต่อเป็นซีรีส์ พอเรามาเล่นแบบ 2K High พร้อม DLSS Balance ได้เฟรมเรทอยู่ที่ 60-88 FPS เลยครับ ได้ภาพที่สวยงามพร้อมกับเฟรมเรทภาพที่ลื่นไหลไม่สะดุดเลยครับ


Need For Speed Unbound

ปิดท้ายด้วยเกมที่ภาคต่อสายวัยรุ่นหลังถนนกับ Need For Speed ในภาค Unbound มาเล่นกันแบบ 2K Ultra พร้อมเปิด DLSS Balance พร้อม Frame Generation ครบสูตรการันตี 95-107 FPS มีอยู่ปลายนวมติดตัวแน่นอน แต่ใครอยากจะปั่นเฟรมเรทก็ปรับลดกราฟฟิคลงมาได้ตามชอบเลยครับ


บทส่งท้าย

จบไปแล้วนะครับสำหรับการรีวิว Notebook ที่มาพร้อมกับความเรียบหรู กับ MSI Stealth 16 Studio รหัสโมเดิล A13VG-044TH รีวิวพร้อมใช้งานเล่นเกมสไตล์พวกเรา ถือว่าสเป็คที่ให้มานั้นสอดคล้องเหมาะสมกับตัวราคาและฟังก์ชั่นจริงๆ ด้วยการ์ดจอใหม่ล่าสุด RTX4070 Series ที่เป็นแบบ RTX Studio ประสิทธิ์ภาพในด้านการทำงานดีมากขึ้นพร้อม CPU ใหม่ล่าสุดกับ intel core i7Gen13 รหัส 13700H ที่จะมาช่วยให้การทำงานราบรื่น แทบใกล้เครื่อง Desktop PC เลย ปิดท้ายด้วยเทคโนโลยีระบายความร้อน Cooler Boost พร้อมฮีทซิงค์แบบบ Shared-Pipe Technology ที่เอาอยู่กับขุมพลังในเครื่องนี้ปิดท้ายด้วยวัสดุสุดพรีเมี่ยมกับ Magnesium Aluminum alloys Design เฉดสีเลือกใช้สี Star Blue สุดหรู พร้อมแสกนนิ้วปลดล็อกเครื่อง ให้คุณปลอดภัยมากขึ้น และ Keyboard Per-Key RGB จาก Steel Series 

โดยสนนราคาเพียง 79,990 บาท หากสนใจ คลิกเลยครับ และหาซื้อได้ที่ ร้านคอมพิวเตอร์ชั้นนำทั่วประเทศ

ขอขอบคุณ MSI ด้วยนะครับที่ให้เราทดสอบความพรีเมี่ยมแบบนี้ฝากติดตาม รีวิวจากทางพวกเรา LOFTGAME ด้วยนะครับ ในทุกๆช่องทางของพวกเราด้วยนะครับสวัสดีครับ

Facebook คลิกเลยครับ 

TikTok คลิกเลยครับ 

และหน้าเว็บไซต์ คลิกเลยครับ


อัจ ลอฟท์เกม

อัจ ลอฟท์เกม ผู้ก่อตั้งเพจและเว็บไซต์ "ลอฟท์เกม - LOFTSGAME" บล็อกเกอร์ผู้สนใจและชื่นชอบเครื่องเล่นเกมคอนโซลเป็นชีวิตจิตใจ นอกจากนี้ยังชื่นชอบเทคโนโลยีต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ไอที แกตเจ็ต รวมไปถึงกีฬาอีสปอร์ต facebook twitter

แสดงความคิดเห็น

ใหม่กว่า เก่ากว่า