รีวิว : Review MSI Pulse 15 ดีไซน์สุดล้ำ สาวก MSI ไม่ควรพลาด!!

สวัสดีครับกลับมาพบกันอีกแล้วพี่แบงค์ขอพาไปรับชม Gaming Notebook อีกหนึ่งรุ่นของทาง MSI คือ MSI Pulse 15 ที่จุดเด่นคือการเลือกใช้สเปคที่สมดุลโดนใจเกมเมอร์ทุกแนว เพราะรุ่นที่รีวิวจะเป็นการ์ดจอ RTX4060 พร้อม CPU จากทาง Intel ในรหัส Core i7-13700H พร้อมแรม 16GB แบบ DDR5 พร้อมหน้าจอ 15.6 นิ้ว Refresh Rate 360 Hz พร้อม Keyboard RGB แบบ 4 Zone RGB ที่ปรับไฟได้อิสระสวยงาม พร้อมแล้วไปรับชมกันครับ

Bundle

ในส่วนของแถมที่ให้มานั่นจะมี กระเป๋าใส่เครื่องตรงรุ่น , Adapter Charge 240W, คู่มือ และตัวเครื่องครับ


Design and Specifications

ตัวเครื่องขอเริ่มจากฝาหลังก่อนเลยเพราะเป็นสิ่งที่ สะดุดตามากกับ การออกแบบเป็น LOGO MSI ที่สวยสะดุดตาแบบฉบับ Sci-Fi สุดล้ำ ตัดกับบอร์ดี้สีเทา พร้อมโลโก้ MSI Signature แบบเข้มๆ

ในด้านของตัวคีย์บอร์ดจะมีความคล้ายคลึงกับรุ่นที่เราเคยรีวิวก่อนหน้าคือ MSI Katana 15 ทั้งด้าน Lay-Out Keyboard และโหมดไฟ RGB คือการปรับแสงไฟในรูปแบบ 4 Zone RGB

ที่แบ่งแป้นพิมพ์เป็น 4Zone ในการแสดงผล เป็นอีกหนึ่งรูปแบบของระบบ RGB ที่สวยงามไม่แพ้ Per-Key RGB เลยครับสามารถปรับได้ผ่านโปรแกรม MSI Center และสามารถ Sync RGB ร่วมกับอุปกรณ์อื่นๆได้ เช่น Gaming Gear จากทาง MSI เป็นต้น 

พอร์ตการเชื่อมต่อมีการปรับปรุงใหม่ เพิ่มฟีเจอร์ที่เป็นยุคอนาคตมากมายเน้นเท่าที่จำเป็น อาทิ ฝั่งซ้าย จะเป็น ช่องชาร์จเครื่อง , ช่อง USB Type A 3.2 Gen1 , ช่อง USB Type A 2.0 อย่างละช่อง  

ฝั่งขวา จะเป็น ช่อง LAN RJ45 Gigabit จำนวน 1 ช่อง ,ช่อง HDMI 2.1 จำนวน 1 ช่อง รองรับสูงสุดบนหน้าจอ 8K 60Hz , USB Type C 3.2 ที่เป็นช่อง Display Port ได้ในตัว จำนวน 1 ช่อง ปิดท้ายกับช่อง 3.5MM แบบรวมไมค์+หูฟัง นั่นเอง

หน้าจอการเล่นเกม เป็นการได้รับเทคโนโลยีจากรุ่นพี่ ด้วยการใส่หน้าจอที่ความละเอียดถึง Full HD ขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้ว Refresh Rate 360 Hz พลิ้วไหวแสดงผลกับทุกแนวเกม และการทำงานครับ พร้อม Webcam ที่ให้ความละเอียด HD 720P ที่ เหมาะสมกับการประชุม หรือการเรียนออนไลน์ หรือ Streaming ง่ายๆนอกสถานที่ครับ สามารถกางราบได้ถึง 180 องศาเลยครับ

สเปคสภายในสำหรับรุ่นที่เราได้รับการรีวิวนั้นมาพร้อมขุมพลังใหม่หมดจด ขอเริ่มจาก CPU กับ Intel Core i7 GEN 13 รหัส 13700H ที่มาพร้อม P Core จำนวน 8 Core และ E Core จำนวน 6 Core โดยที่ P Core ใช้ในด้านการประมวลผลหนัก อาทิ การเล่นเกม การ Stemming การ Render เป็นต้น

และการ์ดจอ RTX4060 8GB รุ่นนี้พิเศษกว่ารุ่นก่อนหน้าเพราะเป็นตัวทาง MSI มีการใช้ MUX Switch ทำให้สามารถใช้งานโหมด Discrete Graphic เป็นการสั่งให้การ์ดจอ RTX4060 ทำงานประมวลผลกราฟฟิค ทุกโปรแกรมทำให้ใช้งานได้เต็มที่ เครื่องจะไม่มีทางตัดไปใช้ การ์ดจอ ON CPU Graphic (หรือเรียกว่า การ์ดจอออนบอร์ด) อย่างแน่นอน

ในการระบายความร้อน เมื่อเราแกะบอร์ดี้เครื่องออกมาจะพบว่าตัวเครื่องนั้น ใช้ระบบระบายความร้อนที่เป็น Signature คือ Cooler boost 5 ที่เป็น 2 พัดลม 5 HeatPipe พร้อมกับ เทคโนโลยี Share Pipe ที่ช่วยให้การระบายความร้อนได้อย่างมีประสิทธ์ภาพมากขึ้นใช้งานได้ แม้ไม่ได้เปิดแอร์

การรับสัญญาณ WiFi เป็นชนิด WiFi AX ด้วยชิป Intel AX201 รับสัญญาณแรงนิ่งครับ

ปิดท้ายแรมและ SSD โดยที่ RAM ที่ให้มาเป็นแบบ DDR5 ใหม่ล่าสุดพร้อมกับ BusSped 5200 MHz และ SSD ให้มาแบบ NVMe PCIe 4.0 ในความจุ 512GB หากซื้อไปแล้วสามารถอัพเกรด SSD NVMe PCIe 4.0 ได้เช่นเดียวกัน แต่ภายในเครื่องจะมีแค่ 1 ช่อง (หากต้องอัพเกรดจะต้องถอดตัวเก่าออกก่อนนะครับ)

Battery 90 W/H ความจุ 5675 mAh พร้อมการชาร์จไฟ 240W ใช้งานพกพานอกสถานที่ได้ครับ แนะถ้าจะใช้งานโหมดแบตเตอร์รี่ให้ปรับ โหมด MUX มาใช้งาน MSI Hybrid Graphics Mode จะทำให้ตัวเครื่องนั้นใช้งานได้ยาวนานมากยิ่งขึ้นครับ  

Benchmark

รอบนี้เข้าสู่การ Benchmark ไม่รีรอให้เสียเวลา ขอเริ่มจาก 3D Mark แบบยกแผง สกอร์คะแนนอยู่ในกลุ่มที่สมฐานะ Gaming Notebook ระดับกลางไปบน

ส่วน Cinebench R23 ทำคะแนนได้ดีเหมือนเราได้ใช้งาน Gaming Desktop PC ใครต้องการเครื่องที่ใช้งานเอกประสงค์ ทั้งการทำงานและการเล่นเกมห้ามพลาดรุ่นนี้เลยครับ


Gaming Test

PUBG

มาถึงการทดสอบ ที่เป็นเนื้อหาคู่เอกของบทความนี้เปิดเกมแรกแบบสาย Esports อย่างเกม PUBG ปรับกราฟฟิคแบบ ALL Ultra ชัดระบบเห็น หญ้าเป็นหญ้า น้ำเป็นน้ำ Framerate ได้ที่ 90-120 FPS พร้อม Refresh Rate 360Hz ใครจะปั่นเฟรมเรทก็สามารถลดสเป็คได้นะครับเพิ่มประมาณ 10-20 FPS


The Last Of US Part 1

ต่อกันที่เกม ฟอร์มยักษ์อย่าง The Last Of US Part 1 เปิดกราฟฟิค High พร้อมเปิด DLSS ที่ Balance Framerate 78-116 FPS ทำคะแนนได้ดีเช่นเดียวกันครับ

Need For Speed Unbound 

เปิดกราฟฟิค Ultra พร้อมเปิด DLSS และ Frame Generator ได้เฟรมเรทไปที่ 80-160 FPS เลยครับ โดนใจสาย Racing อย่างแน่นอน


GTA V

เป็นเกมที่น้องๆหลายๆคน รีเควสจริงๆ (แต่เวลามาขอทีจะบอก พี่แบงค์ๆ รีวิว GTA V หน่อย ฮาฟฟู่วว์) แต่ขอรีวิวตัวเกมแบบ Original นะครับ โดยปรับ Very High สุดทุกอย่างจะได้เฟรทเรทที่ 109-170 FPS ไวใจหายห่วงครับ ใครจะสตีมไปเล่นไปก็ ปรับลดเสปค และใช้ CPU ในการสตรีมก็จะช่วยได้ครับ

MSI Center

ปิดท้ายโปรแกรมสามัญประจำเครื่อง MSI Center สำหรับการปรับค่าต่างๆ อาทิ User Scenario ที่มี Ai วิเคราห์โปรแกรมให้ว่าระหว่างที่เราใช้งานเครื่องควรที่ปรับรอบพัดลมหรือไม่ เพื่อสอดคล้องกับเวลาที่เราใช้งานเสียงพัดลมที่รบกวนจะลดน้อยลง ไม่ดังพร่ำเพื่อ

(แต่สามารถปรับแบบ Manual ได้ครับ) และการใช้โหมด MUX Switch เพื่อสลับโหมดการทำงานของการ์ดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการใช้งานเครื่อง ปิดท้ายในรุ่นนี้กับ 4 Zone RGB ที่ตัวไฟคีย์บอร์ดเขานั้นแบ่งโซนการทำงาน สามารถมาปรับแสดงผลได้ที่โปรแกรม MSI Center เช่นเดียวกัน 


บทส่งท้าย

จบไปแล้วนะครับสำหรับการทดสอบ Gaming Notebook ในรุ่น Pulse15 B13VFK-262TH ซึ่ง จุดเด่นคือขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้ว Refresh Rate 360 Hz พลิ้วไหวแสดงผลกับทุกแนวเกม และการ์ดจอ RTX4060 ที่มี MUX Switch สามารถปรับให้เครื่องใช้งานกราฟฟิค RTX ได้เต็มประสิทธ์ภาพ และ CPU Intel Core i7 GEN 13 รหัส I7-13700H ที่มาพร้อม P Core จำนวน 8 Core และ E Core จำนวน 6 Core สนราคาอยู่ที่ 57,990 สนใจคลิกเลยครับ และสามารถหาซื้อได้ผ่านร้านคอมพิวเตอร์ชั้นนำทั่วประเทศไทยและช่องทางออนไลน์ได้เลยครับ

ฝากติดตาม รีวิวจากทางพวกเรา LOFTGAME ด้วยนะครับ ในทุกๆช่องทางของพวกเราด้วยนะครับ 

สวัสดีครับ

Facebook คลิกเลยครับ 

TikTok คลิกเลยครับ 

และหน้าเว็บไซต์ คลิกเลยครับ

อัจ ลอฟท์เกม

อัจ ลอฟท์เกม ผู้ก่อตั้งเพจและเว็บไซต์ "ลอฟท์เกม - LOFTSGAME" บล็อกเกอร์ผู้สนใจและชื่นชอบเครื่องเล่นเกมคอนโซลเป็นชีวิตจิตใจ นอกจากนี้ยังชื่นชอบเทคโนโลยีต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ไอที แกตเจ็ต รวมไปถึงกีฬาอีสปอร์ต facebook twitter

แสดงความคิดเห็น

ใหม่กว่า เก่ากว่า